ใหม่ฮอนด้า เอ็นเอสเอ็กซ์ รถยนต์สปอร์ตซูเปอร์คาร์สายพันธุ์ปลาดิบ

ใหม่ฮอนด้า เอ็นเอสเอ็กซ์ รถยนต์สปอร์ตซูเปอร์คาร์สายพันธุ์ปลาดิบ การกลับมาของต้นตำรับ ซูเปอร์คาร์สายพันธุ์ปลาดิบ - ดีไซน์ ต้นแบบ กว่า 20 ปีแล้วที่ตำนานของฮอนด้า เอ็นเอสเอ็กซ์ ต้นแบบแห่งซูเปอร์คาร์สายพันธุ์ปลาดิบ กับรถยนต์สปอร์ต เครื่องวางกลางลำ ที่มาพร้อมแนวคิดด้านอัตราส่วนแรงม้าต่อน้ำหนักที่สูง ใช้งานได้ง่ายในชีวิตประจำวัน และได้รับการปรับแต่งสมรรถนะการควบคุมบังคับให้โดดเด่นเหนือใครโดยตำนานอย่าง “ไอร์ตัน เซนน่า” สุดยอดนักขับชาวบราซิล ที่แม้แต่ “ไมเคิล ชูมัคเกอร์” ยังต้องซูฮก
เมื่อครั้งที่ออกมานั้น รถคันนี้ได้แสดงให้โลกได้เห็นว่าญี่ปุ่นก็สามารถสร้างซูเปอร์คาร์ได้ และหากเทียบกับซูเปอร์คาร์เครื่องกลางลำในพิกัดเดียวกันจากอิตาลีในเวลานั้นก็คือ เฟอร์รารี 348 ที่เอาแน่เอานอนไม่ค่อยจะได้ ทำให้ฮอนด้า เอ็นเอสเอ็กซ์กลายเป็นดาวเด่นในโลกยานยนต์ทันที
แต่เนื่องจากสภาพการทางเศรษฐกิจที่ลุ่ม ๆ ดอน ๆ ของญี่ปุ่นและของโลกในช่วงปลายศตวรรษที่ 20 ทำให้ความคิดที่จะผลักดันโครงการทายาทของเอ็นเอสเอ็กซ์ต้องแท้งไปไม่รู้ต่อกี่ครั้ง เพราะรู้ ๆ กันว่ายอดจำหน่ายซูเปอร์คาร์นั้นต่ำกว่ารถทั่วไปมาก ทำให้ต้องทนขายเอ็นเอสเอ็กซ์ โฉมเดิมแต่ปรับนิดปรับหน่อยมากว่าทศวรรษ

แต่ด้วยการเกิดขึ้นของเศรษฐกิจใหม่ขนาดยักษ์อย่างประเทศจีน และอินเดีย ทำให้ตลาดซูเปอร์คาร์กลับมาเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วอีกครั้ง ไม่เคยมีช่วงเวลาไหนในประวัติศาสตร์ที่บริษัทอย่างเฟอร์รารี, ปอร์เช่ และแลมโบกีนี ทำรายได้เป็นกอบเป็นกำขนาดนี้ และนี่เองก็ดูเป็นโอกาสอันดีที่โปรเจคท์ เอ็นเอสเอ็กซ์ ใหม่ ถูกกลับมานำเสนออีกครั้ง แต่เพื่อให้ลงตัวกับการเปิดตัวในตลาดใหม่ที่ต้องการรถสปอร์ตที่อู้ฟู่ ฮอนด้าจึงตัดสินใจทำตลาดเอ็นเอสเอ็กซ์ภายใต้แบรนด์อะคิวร่า แบรนด์ระดับหรูที่ทำขายในตลาดสหรัฐอเมริกา เหมือนกับที่โตโยต้าเลือกทำตลาดซูเปอร์คาร์ภายใต้แบรนด์เลกซัสนั่นเอง

จากภาพที่ทางฮอนด้าเผยตัวเอ็นเอสเอ็กซ์ใหม่นั้น ฮอนด้าได้นำเสนอไวยากรณ์การออกแบบใหม่ทั้งหมดให้กับเอ็นเอสเอ็กซ์ โดยนำเสนอภาพลักษณ์ของรถสปอร์ตเครื่องวางกลางลำ ที่มีขนาดสัดส่วนกระชับแน่น และบุคลิกภาพเนี้ยบเฉียบ ซึ่งไปในทิศทางเดียวกับซูเปอร์คาร์พันธ์ุหรูจากเยอรมนีอย่าง ออดี้อาร์8 โดยเส้นสายการออกแบบนั้นเน้นไปที่เหลี่ยมสันที่เฉียบคม เหมือนกับรถยนต์ในตระกูลอะคิวร่ารุ่นอื่น ๆ

ในการที่จะสู้กับซูเปอร์คาร์ยี่ห้ออื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นคู่แข่งร่วมชาติ อย่างเลกซัส แอลเอฟ-เอ ที่ใช้เครื่องยนต์รอบจัด แบบวี 10 หรือ ออดี้ อาร์ 8 จากเยอรมนี ที่อาศัยเครื่องยนต์ วี 10 ที่ทรงพลังจากแลมโบกินี รวมไปถึงเจ้าแห่งซูเปอร์คาร์ อย่างเฟอร์รารี 458 อิตาเลีย ที่มาพร้อมเครื่องยนต์แบบวี 8 รอบจัดสุดจี๊ดนั้น ทางฮอนด้าแก้เกมด้วยการใช้สูตรเดิมที่ยึดมั่นมาตลอดคือ การทำรถที่มีการควบคุมและทำความเร็วในทางโค้งได้รวดเร็วและต่อเนื่อง จากการใช้น้ำหนักที่เบามาเป็นข้อได้เปรียบ แต่สำหรับเอ็นเอสเอ็กซ์ใหม่นี้ ทำโดยการนำเสนอเครื่องยนต์แบบวี 6 ที่เบากว่าของคู่แข่ง และทำงานร่วมกับระบบมอเตอร์ไฟฟ้าแบบอิสระแยกซ้ายขวาในการขับเคลื่อนล้อหน้าทั้ง 2 ข้าง ทำงานในลักษณะไฮบริดที่ฮอนด้าเรียกว่าระบบ SH-AWD (Super Handling All Wheel Drive) ซึ่งแปลเป็นไทยได้ว่าระบบขับเคลื่อนทุกล้อเพื่อการควบคุมชั้นเลิศ ซึ่งนอกจากจะช่วยให้สามารถถ่ายทอดกำลังสู่พื้นถนนได้อย่างต่อเนื่องกว่าแบบกลไกปกติแล้วยังช่วยให้การเร่งและเบรกทำได้อย่างเหนือชั้นอีกด้วย และฮอนด้ายังกล่าวต่อไปด้วยว่า การใช้ระบบไฮบริดนี้ นอกจากจะส่งผลดีต่อสมรรถนะและยังลดมลภาวะซึ่งเป็นสิ่งที่ซูเปอร์คาร์แห่งอนาคตเองก็ต้องตระหนักเช่นกัน

สุดท้ายนี้ก็คงต้องรออีกราว 3 ปี กว่าที่โปรเจคท์นี้จะลงมาสู่ถนนจริง โดยทางฮอนด้าวางแผนจะผลิตในสหรัฐอเมริกา และตอนนี้ยังไม่มีการพูดถึงตัวถังแบบอื่น ๆ แต่จากยอดขายของเฟอร์รารี รุ่นเปิดประทุนที่ขายได้แบบเทน้ำเทท่า ก็เชื่อว่าเอ็นเอสเอ็กซ์คงจะมีรุ่นเปิดประทุนตามมา แต่ถามผู้เขียนว่าเอ็นเอสเอ็กซ์ใหม่นี้จะดังและกลายเป็นตำนานเหมือนกับรุ่นแรกหรือไม่ คงต้องบอกว่ายาก! แต่ว่าคงจะขายดีแน่นอน เพราะรถที่ลงตัวขนาดนี้ สวย หรู ทนทาน ประหยัด หาได้ที่ไหนกันอีก.
ภัทรกิติ์ โกมลกิติ
ที่มา เดลินิวส์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น