New Honda CR-Z Memorial Award Edition รุ่นฉลองรางวัล 2010 Japanese Car of the Year

New Honda CR-Z Memorial Award Edition รุ่นฉลองรางวัล 2010 Japanese Car of the Yea เพื่อเป็นการฉลองตำแหน่ง Japanese Car of the Year ประจำปี 2010 สำหรับ CR-Z สปอร์ตไฮบริดขายดีของ Honda ทางบริษัทฯจึงได้เปิดตัวรุ่นพิเศษ Memorial Award Edition ที่ใช้สีตัวถังเป็นสีน้ำเงิน Pearl Deep Sapphire Blue ในขณะที่ล้ออัลลอยเป็นสีเทาเงิน Dark Pewter Gray ขนาด 16 นิ้ว ภายนอกตัวรถไม่มีอะไรใหม่นอกจากสติ๊กเกอร์ของรุ่นที่ติดอยู่บนหน้าต่างฝั่งที่นั่งคนขับ ส่วนภายในห้องโดยสารใช้สีเทา Medium Gray พร้อมติดตั้งแป้นคันเร่งและที่พักเท้าอลูมิเนียม โดยมีระบบนำทางเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ขุมพลังที่ใช้เป็นเครื่องยนต์ i-VTEC 4 สูบ 1.5 ลิตร ให้กำลัง 122 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 123-128 ปอนด์ฟุต ขับเคลื่อนผ่านเกียร์ CVT 6 สปีด
Honda เตรียมจำหน่าย CR-Z Memorial Award Edition ที่ประเทศญี่ปุ่นในต้นปี 2011 ในราคา 2,794,000 เยนซึ่งเป็นราคาจำหน่ายที่ได้รวมภาษีเรียบร้อยแล้ว

ที่มา: Honda , autospinn

เปิดตัว Li Nian S1 ซีดานตี๋เล็กตัวใหม่ มันคือ Honda City เจนเนอเรชั่นเก่าเวอร์ชั่นจีน

รถรุ่นใหม่ในระดับซับคอมแพคท์หรือคอมแพคท์ไม่ได้มีเพียงแค่ All-New Nissan Sunny ที่ได้เปิดตัวในงาน China International Automobile Exhibition ประจำปี 2010 นี้เท่านั้น Honda ยังส่ง Li Nian S1 ซีดานเล็กตัวใหม่แต่หน้าตาไม่ใหม่เท่าไรนัก เพราะมันก็คือ City ที่ได้รับการดัดแปลงโฉมเล็กน้อยเพื่อตลาดคนจีนโดยเฉพาะภายใต้ชื่อยี่ห้อใหม่ว่า Li Nian ซึ่งผลิตโดยบริษัท Guangqi Honda ที่เป็นบริษัท Joint Venture ระหว่าง Honda และ Guangzhou Automobile Group
Li Nian S1 มีหน้าที่ไม่ดูหวือหวาเท่า Everus Concept รถต้นแบบที่เคยเผยโฉมไปเมื่อต้นปี และแม้ว่า Honda ยังไม่เปิดเผยรายละเอียดของรถรุ่นนี้ แต่อย่างที่กล่าวไปข้างต้น Li Nian S1 ก็คือ Honda City (หรือ Jazz/Fit Sedan) เจนเนอเรชั่นก่อนหน้านี้ซึ่งจะว่าไปแล้วไม่มีอะไรใหม่เลยนอกจากยี่ห้อ โดย Honda เตรียมส่ง Li Nian S1 เข้าเจาะตลาดวัยรุ่นจีน ซึ่งมีกำหนดการจำหน่ายในฤดูใบไม้ผลิปี 2011 ผ่านช่องทางการขายของ Guangqi Honda โดยมีรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 1.3 และ 1.5 ลิตรให้เลือก

ที่มา: Honda,autospinn


เปิดตัว Li Nian S1 ซีดานตี๋เล็กตัวใหม่ มันคือ Honda City เจนเนอเรชั่นเก่าเวอร์ชั่นจีน

New Honda Civic ใหม่เผยโฉมดีทรอยต์ปีหน้า

New Honda Civic ใหม่เผยโฉมดีทรอยต์ปีหน้า สำหรับแฟนๆ ของฮอนด้า ซีวิคที่กำลังรอลุ้นว่าหน้าตาที่เป็นโมเดลเชนจ์ของรถยนต์คอมแพ็กต์คาร์รุ่นนี้จะเป็นอย่างไร ? ในตอนนี้ ฮอนด้ามีคำตอบให้แล้ว เพราะแบรนด์ดังของญี่ปุ่นวางแผนจะเผยโฉมต้นแบบของซีวิคใหม่ในดีทรอยต์ มอเตอร์โชว์ 2011 ที่จะเริ่มขึ้นในระหว่างวันที่ 10-23 มกราคมนี้
แม้ฮอนด้ายังไม่เผยรายละเอียดอะไรเกี่ยวกับรถยนต์รุ่นนี้ แต่ทว่าซีวิคคอนเซ็ปต์จะถูกสร้างสรรค์เพื่อแสดงให้เห็นถึงภาพลักษณ์และหน้าตาของซีวิคใหม่ที่จะเปิดตัวในปลายปี 2011 และเข้ามาแทนที่รุ่นปัจจุบัน ซึ่งเป็นเจนเนอเรชันที่8 และเปิดตัวขายในตลาดทั่วโลกมาตั้งแต่ปี 2005

อย่างไรก็ตามคำถามที่เกิดขึ้นคือที่เห็นอยู่นี้จะเป็นซีวิคสำหรับขายเฉพาะในสหรัฐอเมริกาเท่านั้นหรือเปล่า ? เพราะในรุ่นปัจจุบันซีวิคถูกแบ่งออกเป็น 3 โซนตลาด คือยุโรปซึ่งจะมีตัวถังแฮทช์แบ็ก 3 และ 5 ประตูที่มีหน้าตาเฉพาะกลุ่มไปเลย, ญี่ปุ่นมีขายเฉพาะซีดานในช่วงแรก แต่ก็อิมพอร์ตเวอร์ชันไทป์ อาร์ของยุโรปเข้าไปขายในภายหลัง และเวอร์ชันญี่ปุ่นเป็นหน้าตาแบบเดียวกับที่ขายในบ้านเราและเวอร์ชันอเมริกาเหนือ (รวมถึงตลาดพวงมาลัยซ้ายบางแห่ง เช่น จีน) จะใช้โครงสร้างตัวถังหลักเหมือนกับเวอร์ชันญี่ปุ่น เปลี่ยนแค่รายละเอียดรูปลักษณ์ด้านหน้า และหลังเท่านั้น อีกทั้งยังมีรุ่นคูเป้ 2 ประตูขายด้วย

แต่ถ้าดูจากสิ่งทีเกิดขึ้นในรุ่นที่แล้วแม้เวอร์ชันบ้านเราและญี่ปุ่นจะต่างออกไปแต่ก็ต้องถือว่าเป็นพี่น้องกับเวอร์ชันอเมริกาเหนืออย่างที่อธิบายข้างบน ดังนั้นถ้าฮอนด้ายังยึดแนวทางนี้ภาพที่เห็นก็ยังพออ้างอิงกับรูปโฉมของซีวิคใหม่ได้ในระดับหนึ่งและแน่นอนว่าภาพรุ่นต้นแบบที่เห็นนี้แตกต่างจากภาพ Spyshot ที่ถูกบันทึกได้ในขณะแล่นอยู่ในตะวันออกกลางอยู่พอสมควรเลย

นับถอยหลังรอได้เลย และวันที่ 10 มกราคมนี้คงจะได้สัมผัสตัวเป็นๆ ถึงแม้ว่าจะยังเป็นต้นแบบอยู่ก็ตาม

ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

Honda แอคคอร์ด ปรับโฉม เติมเนวิเกเตอร์กันหลงทาง

Honda แอคคอร์ด ปรับโฉม เติมเนวิเกเตอร์กันหลงทาง
บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล ประเทศไทย ส่ง ฮอนด้า แอคคอร์ด ปรับโฉมใหม่ ลุยตลาดเก๋งหรู ซึ่งแอคคอร์ดใหม่ จัดกรุ๊ปให้สื่อมวลชนร่วมทดสอบ รุ่น 2.0 อีแอล เนวิ ในเส้นทางกรุงเทพฯ-เกาะช้าง จังหวัดตราด รวมระยะทางวิ่ง 384 กม.

โดยคาราวานเล็ก ๆ เริ่มต้นการเดินทางที่โชว์รูม ฮอนด้า ออโตโมบิล ถนนศรีอยุธยาเข้าถนนมอเตอร์เวย์ ผ่านจังหวัดชลบุรีเข้าจังหวัดจันทบุรีไปยังจุดหมายปลายทางที่จังหวัดตราด ซึ่งสมรรถนะการวิ่งทางเรียบของฮอนด้า แอคคอร์ดใหม่หายห่วงวิ่งฉิว เร่งแซงได้ดังใจ แม้จะเป็นเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร น้องเล็กที่สุดในกลุ่มของแอคคอร์ดก็ตาม อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันถือว่าอยู่ในระดับที่ประหยัดใช้ได้ทีเดียว โดยวิ่งระยะทาง 339 กม. น้ำมันเหลือประมาณครึ่งถังได้

จากนั้นได้นำรถข้ามเรือสู่เกาะช้าง ซึ่งถนนหนทางนั้น บางช่วงขรุขระ เพราะอยู่ระหว่างการซ่อมแซม บางช่วงขึ้นเขา สูงชัน โค้งหักศอกบ้าง ทางค่อนข้างแคบ แต่ไม่ได้เป็นปัญหาเพราะตัวรถไม่ได้ใหญ่เกินไป ถึงแม้ว่าระหว่างทางที่ขึ้นเขาชันนั้นมีออกอาการอืดเล็ก ๆ แต่ก็ไม่ได้ลำบากอะไรมากนัก

ภายในอุปกรณ์บังคับต่าง ๆ ถูกจัดไว้ให้ใช้งานค่อนข้างสะดวก โดยเฉพาะจอเนวิเกเตอร์สามารถคลำหาเป้าหมายได้ค่อนข้างแม่นยำ ส่วนที่นั่งผู้โดยสารด้านหลังถือว่ากว้างขวาง นั่งสบาย มีแอร์ช่องหลังทำให้ไม่ร้อนตามอุณหภูมิภายนอก ที่เก็บของท้ายรถใส่ถุงกอล์ฟได้สบายทีเดียว

ส่วนรูปโฉมภายนอกของ Hondaแอคคอร์ด นั้น ได้ปรับกระจังหน้าใหม่ กรอบไฟท้ายโครเมียม ล้อแม็กลายใหม่ ดูสปอร์ตและบึกบึนขึ้น

ฮอนด้าส่งแอคคอร์ดใหม่ลุยตลาดพร้อมกันถึง 6 รุ่น มีเครื่องยนต์ให้เลือก 3 ขนาด คือ รุ่น 3.5 วี 6 เครื่องยนต์ 3.5 ลิตร ราคา 2.94 ล้านบาท, สำหรับขนาดเครื่องยนต์ 2.4 ลิตรแบ่งเป็นรุ่น 2.4 อีแอล เนวิ ราคา 1.687 ล้านบาท และรุ่น 2.4 อีแอล ราคา 1.547 ล้านบาท ส่วนขนาดเครื่องยนต์ 2.0 ลิตรนั้น แบ่งเป็น รุ่น 2.0 อี ราคา 1.265 ล้านบาท และอีก 2 รุ่นใหม่ คือ รุ่น 2.0 อีแอล ราคา 1.28 ล้านบาท และรุ่น 2.0 อีแอล เนวิ ราคา 1.42 ล้านบาท เลือกหาจองซื้อได้ตามความแรง.

เนตรนภางค์ บุญนายืน
ที่มา เดลินิวส์

ทากาโนบุ อิโต้ รถเล็กคือสินค้าหลักของฮอนด้า

ถือเป็นงานใหญ่สำหรับค่ายฮอนด้า ที่ล่าสุดได้นำรถต้นแบบเวอร์ชั่นที่มีความใกล้เคียงกับ "ฮอนด้า อีโคคาร์" มากที่สุดมาจัดแสดงเพื่อให้คนไทยและคนทั่วโลกได้ยลโฉม โดยมีกำหนดจะแจ้งเกิดในเร็ว ๆ นี้ พร้อมกันนี้ยังได้รับเกียรติจาก "ทากาโนบุ อิโต้" ประธานกรรมการบริหาร และ CEO บริษัท ฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด กุ่มบังเหียนให้ "ฮอนด้า" ทั่วโลก และยังเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนไทยได้ร่วมอัพเดตสถานการณ์ของฮอนด้า รวมทั้งความคาดหวังกับรถยนต์เซ็กเมนต์ใหม่ด้วย

- สถานการณ์ธุรกิจของฮอนด้าทั่วโลก

วันนี้ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกได้มีการพัฒนาเศรษฐกิจกันอย่างกว้างขวาง ตลาดรถยนต์เองในช่วงที่ผ่านมาแม้ว่าจะมีอัตราการเติบโตเพียงเล็กน้อย และถือว่ายังไม่อยู่ในช่วงฟื้นฟูของตลาด

สำหรับรถยนต์ฮอนด้าในญี่ปุ่นเองถือว่าเรายังคงมีตลาดที่ค่อนข้างดี ส่วนในอเมริกาสภาพการฟื้นตัวของตลาดและเศรษฐกิจยังคงเป็นไปที่ละเล็กละน้อย และเราหวังว่าตลาดนี้จะมีการฟื้นตัวเพิ่มมากขึ้นในอนาคต

ส่วนตลาดเอเชียนั้นถือว่าเป็นตลาดที่มีอัตราการเติบโตค่อนข้างสูง ซึ่ง "ฮอนด้า" เองคาดหวังว่าจะมีการเติบโตในตลาดภูมิภาค เอเชีย โอเชียเนียว่าจะต้องเป็นตลาดหลักของฮอนด้าในอนาคต

ขณะที่รถจักรยานยนต์นั้น ต้องยอมรับว่ามอเตอร์ไซค์ขนาดใหญ่ได้รับผลกระทบค่อนข้างหนักจากสภาพเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมา เพราะฉะนั้นฮอนด้าเองจำเป็นจะต้องปรับนโยบายในส่วนของสินค้า ซึ่งเราต้องโฟกัสไปที่กลุ่มมอเตอร์ไซค์ขนาดเล็กหรือคอมมิวเตอร์มากขึ้น

โดยเฉพาะตลาดในประเทศไทย-อินโดนีเซีย และบราซิล ที่เราเชื่อว่าจะมีอัตราการเติบโตในอนาคตอย่างแน่นอน ฮอนด้ามุ่งมั่นในการผลิตสินค้าที่ดึงดูดให้ลูกค้าซื้อสินค้าของเราเพิ่มมากขึ้น

- แนวโน้มของตลาดรถยนต์-รถขนาดเล็ก

จะเห็นได้ว่าตลาดรถยนต์นั่งขนาดเล็กช่วงที่ผ่านมามีอัตราการเติบโต 10-20% ของตลาดรถยนต์ในเอเชีย เช่นเดียวกัน "ฮอนด้า" ก็มีอัตราการเติบโตในระดับนั้น โดยตลาดรถยนต์นั่งเราคาดหวังไว้ว่าจะมีอัตราการเติบโตค่อนข้างสูง ที่ผ่านมารถยนต์ในกลุ่มเก๋งใหญ่-กลางอย่างแอคคอร์ด, ซีวิคนั้นเคยเป็นตลาดหลักของเรา แต่จากนี้ไปสินค้าหลักของฮอนด้าจะพุ่งเป้ามาที่กลุ่มรถยนต์นั่งขนาดเล็กที่จะโดดเด่นที่สุด และล่าสุดเราเตรียมแนะนำฮอนด้า "บริโอ้"

- ความแตกต่างของ "บริโอ้" กับรถของค่ายอื่น

สำหรับสินค้าของฮอนด้านั้นจะต้องมีความแตกต่างจากสินค้าที่มีอยู่แล้วในตลาด และโครงการอีโคคาร์ของประเทศไทยฮอนด้ามีความชัดเจนและมีแผนงานที่จะเข้าร่วมธุรกิจนี้ในไทย และได้เตรียมความพร้อมมาตลอด สำหรับฮอนด้า บริโอ้นั้นเราเชื่อว่าผู้บริโภคชาวไทยจะพึงพอใจกับสมรรถนะของรถรวมทั้งจุดเด่นอีกมากมายรวมทั้งความพอใจและภูมิใจกับรถคันนี้ด้วย

- ที่มาของชื่อ "บริโอ้"

บริโอ้ (Brio) นั้นเป็นภาษาอิตาเลียนแปลว่า ความสดใส มีชีวิตชีวา ซึ่งคำคำนี้เหมาะกับรถของเราอย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นรถยนต์นั่งขนาดเล็กที่มีทั้งควาทมสดใส กะทัดรัด สะดุดตา โดยรถต้นแบบที่เรานำมาโชว์นี้จะเป็นตัวที่ผลิตสำหรับตลาดในประเทศไทย และมีความใกล้เคียงกับตัวรถที่จะทำตลาดมากที่สุด จากแผนงานของฮอนด้าที่จะผลิตรถรุ่นนี้ใน 2 ฐานผลิต คือ ไทย อินเดียเท่านั้น ส่วนในจีนบริษัทไม่มีแผนแต่อย่างใด

ฮอนด้า บริโอ้คันนี้ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร ที่สามารถวิ่งได้ 20 กิโลเมตรต่อลิตร ซึ่งหากจะเทียบกับรถคู่แข่งที่ทำตลาดอยู่ ฮอนด้ามีแผนจะเพิ่มสมรรถนะให้กับรถคันนี้ โดยราคาจำหน่ายคาดว่าจะเริ่มต้นที่ 400,000 บาท

- ฮอนด้ากับนโยบายด้านพลังงานทางเลือก

สำหรับนโยบายด้านพลังงานทางเลือกนั้น ฮอนด้าให้ความสำคัญกับไฮบริด, ฟิวเซลล์, ไฟฟ้า รวมทั้งการวิจัยและพัฒนา การใช้พลังงานน้ำมันให้เกิดประสิทธิภาพ สูงสุดด้วย และฮอนด้าต้องการพัฒนาพลังงานที่หลากหลายให้มากที่สุดโดยเฉพาะการลดการปล่อยค่าไอเสียให้ได้มากที่สุด อย่างโครงการอีโคคาร์ของรัฐบาลไทยนั้นถือเป็นการส่งเสริมให้เกิดการใช้รถยนต์ประหยัดพลังงาน และไทย ถือเป็นประเทศที่มีบทบาทและเป็นผู้นำการผลิตที่โดดเด่นอย่างยิ่ง และฮอนด้าก็ภูมิใจอย่างยิ่งกับรถอีโคคาร์ฮอนด้า บริโอ้อย่างมากด้วย
ที่มาประชาชาติธุรกิจ

ฮอนด้าโชว์สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า อีวี-นีโอ ที่จัดแสดงในงานเทคโนโลยีสิ่งแวดล้อม กรุงโตเกียว

ฮอนด้าโชว์สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า อีวี-นีโอ ที่จัดแสดงในงานเทคโนโลยีสิ่งแวดล้อม กรุงโตเกียว โดยวางตลาดในรูปแบบให้เช่าในกลุ่มธุรกิจส่งสินค้าถึงบ้าน (delivery) เช่น หนังสือพิมพ์ และพิซซ่า สกู๊ตเตอร์ อีวี-นีโอ ไม่ปล่อยควันเสีย และเงียบไม่มีเสียง มันสามารถวิ่งได้ 30 กิโลเมตรต่อการชาร์ทพลังงานหนึ่งครั้ง

ฮอนด้าโชว์สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า อีวี-นีโอ ที่จัดแสดงในงานเทคโนโลยีสิ่งแวดล้อม กรุงโตเกียว
ที่มา ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

New Honda Fit EV Concept : อีกการขับเคลื่อนด้วยพลังไฟฟ้า

New Honda Fit EV Concept : อีกการขับเคลื่อนด้วยพลังไฟฟ้า ในงานปารีส มอเตอร์โชว์ เมื่อต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ฮอนด้าสร้างความฮือฮามาแล้วครั้งหนึ่งกับการจับเอาซับคอมแพ็กต์รุ่นแจ๊ซ หรือฟิตมาขับเคลื่อนด้วยขุมพลังลูกผสมอย่างระบบไฮบริด และหลังจากนั้นไม่นาน แจ๊ซ/ฟิต ไฮบริดก็กลายเป็นจริง และออกอาละวาดภายใต้รูปโฉม JDM พร้อมกับรุ่นปรับโฉมของเวอร์ชันธรรมดาในตลาดญี่ปุ่นแต่ดูเหมือนว่าเวอร์ชันพลังงานทางเลือกของฟิต/แจ๊ซจะไม่ได้หมดแค่นี้ เพราะฮอนด้ายังนำเสนอทางเลือกใหม่ออกมาอีกภายใต้รูปแบบของ EV หรือรถยนต์พลังไฟฟ้าพันธุ์แท้ ที่ตอนแรกนึกว่าฮอนด้าจะไม่ให้ความสนใจกับตลาดกลุ่มนี้อีกแล้ว หลังจากมุ่งเน้นไปที่เทคโนโลยีเซลล์เชื้อเพลิง หรือ Fuel Cell

การพัฒนามีขึ้นบนพื้นฐานของฟิตรุ่นที่ขายอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งทางฮอนด้าจัดการปรับแต่งหน้าตาภายนอกให้ดูสวยและทันสมัยสมกับเป็นรถยนต์พลังงานทางเลือก ขณะที่ภายในห้องโดยสารถูกปรับปรุงให้ดูสวยล้ำสมัย และฮอนด้าสามารถจับเอาระบบ EV ทั้งแบตเตอรี่ และมอเตอร์ไฟฟ้า รวมถึงหน่วยประมวลผลของระบบเข้าไปวางอยู่ในตัวรถได้โดยที่ไม่เบียดบังพื้นที่ใช้สอย และฟิต EV ยังสามารถรองรับกับการบรรทุกผู้ขับและผู้โดยสารรวม 5 ที่นั่งโดยที่เหลือพื้นที่ใช้สอยด้านท้ายเหมือนกับรุ่นปกติ
สำหรับระบบขับเคลื่อน ฮอนด้านำมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ High-Density ที่ได้รับการปรับปรุงและพัฒนามาจาก FCX Clarity สามารถส่งกำลังอย่างต่อเนื่องและสามารถพาตัวถังทรงกะทัดรัดทะยานด้วยความเร็วสูงสุด 145 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และสามารถทำระยะทางได้ถึง 160 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้งตามมาตรฐานการทดสอบแบบ LA4 City Cycle ของ EPA

อีกทั้งยังมีการเซ็ตให้ผู้ขับสามารถเลือกสไตล์การขับเคลื่อนได้ถึง 3 แบบ หรือ 3-Mode Electric Drive System ซึ่งตรงนี้ก็เป็นการประยุกต์มาจากระบบที่ใช้อยู่ในสปอร์ตไฮบริดรุ่น CR-Z โดยทั้ง 3 โหมด คือ ECON, NORMAL และ SPORT เพื่อให้มอเตอร์ไฟฟ้าสามารถตอบสนองการขับเคลื่อนได้ตามรูปแบบที่ถูกเลือก

เมื่ออยู่ในโหมด ECON จะสามารถแล่นทำระยะทางได้มากกว่าโหมด NORMAL 17% และ 25% เมื่อเปรียบเทียบกับโหมด SPORT และในโหมด SPORT สามารถรีดอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในระดับที่ใกล้เคียงกับที่ได้จากเครื่องยนต์เบนซิน 2,000 ซีซีเลยทีเดียว
นอกจากนั้น ตัวระบบยังมีการติดตั้งการให้คำแนะนำในการขับขี่ผ่านทางมิเตอร์บนแผงหน้าปัด เพื่อบอกให้ผู้ขับทราบถึงวิธีในการขับที่ถูกต้องเพื่อช่วยลดการใช้กระแสไฟฟ้าในแบตเตอรี่แบบลิเธียม-ไออน เช่น แนะนำให้ปิดเครื่องปรับอากาศ หรืออุปกรณ์อำนวยความสะดวกอื่นๆ ตัวรถยังเป็นต้นแบบสำหรับจัดแสดง แต่สำหรับอนาคตยังไม่มีการยืนยันว่าสุดท้ายแล้วจะมีออกมาขายหรือไม่ แต่ก็มีข่าวบางกระแสระบุว่าฮอนด้าอาจจะเอาจริงในการทำตลาดสหรัฐอเมริกา และรวมถึงญี่ปุ่น หลังจากที่นิสสัน และมิตซูบิชิเปิดแนวรุกตลาดกลุ่มนี้ด้วยรุ่น LEAF และ i-MiEV

ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

Motor Expo 2010: Honda CBR250R หลากสีพร้อมเพื่อนๆ เปิดซุ้มอวดโฉมข้างบูธ

ที่บูธของ Honda นอกจากจะดึงดูดผู้เข้าชมด้วยการอวดโฉมรถต้นแบบ BRIO แล้ว ส่วนที่น่าสนใจรองจาก BRIO คงหนีไม่พ้นซุ้มมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ที่มีพระเอกอย่าง Honda CBR250R เป็นตัวชูโรงในสีต่างๆ รวมถึงสกูีตเตอร์ไซต์บิ๊ก PCX ก็เป็นหนึ่งในมอเตอร์ไซค์ที่ไปอวดโฉมด้วยเช่นกัน




Motor Expo 2010: Honda CBR250R หลากสีพร้อมเพื่อนๆ เปิดซุ้มอวดโฉมข้างบูธ
ที่มา autospinn

Honda Eco Car เตรียมเปิดตัวต้นปีหน้า R&D คืบกว่า 90% เตรียมขึ้นไลน์ทดลองผลิตแล้ว

Honda Eco Car เตรียมเปิดตัวต้นปีหน้า R&D คืบกว่า 90% เตรียมขึ้นไลน์ทดลองผลิตแล้ว Honda อดรนทนไม่ไหวเมื่อเห็นยอดจองถล่มทลายของ Nissan March รถยนต์นั่งประหยัดพลังงานรายแรกของไทยที่ได้รับใบสั่งจองไปมากกว่า 15,000 คัน จากที่ตั้งเป้าไว้ทั้งปี 20,000 คัน จึงเตรียมขึ้นไลน์ทดลองการผลิต Honda Ecocar ของตัวเอง โดยหวังว่าจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในต้นปีหน้าแน่นอน ในขณะที่การวิจัยและพัฒนาก็คืบหน้าไปมากกว่า 90% จากการเปิดเผยของนายอาซึชิ ฟูจิโมโตะ ประธาน ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด
Honda ประเทศไทยได้เคยอวดโฉม Ecocar ในงานมอเตอร์โชว์ที่อินเดีย ตามด้วยงานมอเตอร์โชว์ที่ศูนย์ไบเทคบางนาเมื่อประมาณ 2 เดือนที่ผ่านมา เพื่อเป็นการสร้างการรับรู้ให้ตลาดกลุ่มเป้าหมายทราบว่ายังมี Ecocar ทางเลือกอีกยี่ห้อนอกจาก Nissan March แต่ในขณะนั้น บริษัทฯได้ประกาศเพียงหลวมๆว่าจะทำการผลิตเพื่อจำหน่ายในปีหน้า แต่หลังจากที่ Nissan ประสบความสำเร็จกับยอดจองของ March ทำให้ Honda ต้องเร่งเครื่องและยอมรับว่า ได้เห็นภาพของการแข่งขันในตลาดรถใน segement นี้ ได้ชัดเจนขึ้นจากเสียงตอบรับของผู้ใช้รถต่อ Nissan March จึงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องแสดงความพร้อมด้วยการแถลงข่าวความคืบหน้าของโครงการรถประหยัดพลังงานของบริษัทฯ
ในการแถลงข่าวในเรื่องความคืบหน้าของ Ecocar บริษัทฯยังเปิดเผยการปรับแผนของเป้าหมายยอดขายที่เดิมตั้งไว้ที่ 95,000 คัน แต่ผ่านมา 5 เดือน Honda มียอดขายรวมอยู่ที่ 40,000 คัน มีอัตราการเติบโตที่เพิ่มขึ้น 20% นอกจากนั้นยังมีคำสั่งซื้อล่วงหน้าอีก 25,000 คัน จึงทำให้บริษัทฯมั่นใจว่าน่าจะทำยอดขายได้มากกว่าเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้ อย่างไรก็ตามบริษัทฯยังอยู่ในการพิจารณาตัวเลขยอดขายใหม่ ซึ่งในขณะนี้ โรงงานของบริษัทฯมีกำลังการผลิตรวมที่ปีละ 240,000 คัน แต่ใช้กำลังผลิตจริงเพียง 75% หรือ 180,000 คัน ซึ่งก็ยังถือว่า บริษัทฯสามารถรองรับเป้าหมายที่เพิ่มเข้ามาอีกได้มากทีเดียว

ที่มา: Honda,autospinn

Honda BRIO อีโคคาร์ตัวใหม่ เริ่มขายมีนาคมปี 2011 ราคาเฉียด 4 แสนบาท ชมกันชัดๆ

Honda BRIO อีโคคาร์ตัวใหม่ เริ่มขายมีนาคมปี 2011 ราคาเฉียด 4 แสนบาท ชมกันชัดๆ สำหรับงานมอเตอร์โชว์ปลายปีนี้อย่าง Motor Expo 2010 ถ้าไม่มีรถรุ่นใหม่ 3 รุ่นคือ Toyota Prius, Chevrolet Cruze และ Honda BRIO Prototype ก็อาจจะทำให้งานในครั้งนี้ขาดสีสันไปทันที อย่างที่รายงานไปแล้วถึงความคืบหน้าของรถอีโคคาร์จากค่าย Honda ที่ได้เปิดตัว BRIO Prototype รถต้นแบบที่ได้รับความสนใจมากที่สุดรุ่นหนึ่งในช่วงปลายปี 2010 เราจึงไม่พลาดที่จะนำภาพทั้งภายในและภายนอกเท่าที่จะเก็บรายละเอียดมากที่สุดมาให้ชมหาก Honda BRIO รุ่น Production ได้ผลิตออกมา คาดว่าเครื่องยนต์ที่ใช้จะเป็นเครื่องยนต์ความจุกระบอกสูบ 1,200 ซีซี มีมิติความยาว 3,610 มิลลิเมตร กว้าง 1,680 มิลลิเมตร และสูง 1,475 มิลลิเมตร มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงในแบบอีโคคาร์ที่ 5 ลิตร/100 กิโลเมตร และถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง Honda จะเริ่มจำหน่าย BRIO ในเมืองไทยเป็นที่แรกในโลกในเดือนมีนาคมปี 2011 ในราคาคันละประมาณ 4 แสนบาท ซึ่งเป็นราคาเปิดเพื่อโยนหินถามทางที่ Honda แถลงใน Press release ที่ต่างประเทศ ส่วนราคาจริงจะลดหลั่นกันไปตามรุ่นและสภาวะตลาดในขณะเริ่มจำหน่าย แต่อย่างไรก็ตามราคาจำหน่ายจริงคงไม่หนีไปจากราคาของ Nissan March มากนัก แม้ว่าจุดขายจะเป็นรถจาก Honda ความสดใหม่ และรูปลักษณ์ที่ดุดันโดนใจวัยรุ่น และหลังจากที่เริ่มทำตลาดในเมืองไทยแล้ว ตลาดต่อไปก็คืออินเดีย ซึ่งจะเริ่มจำหน่ายภายในปี 2011 เช่นกัน แน่นอนว่าการเปิดตัวของ BRIO ย่อมทำให้คู่แข่งโดยตรงที่มีอยู่ในตลาดเพียงรายเดียวอย่าง Nissan March จะต้องเตรียมตั้งรับด้วยกลยุทธ์ทางการตลาดอย่างเต็มที่ ซึ่งจะเป็นแบบไหนต้องคอยติดตามชม ส่วนค่ายพี่ใหญ่อย่าง Toyota ก็มีข่าวมีมาอย่างต่อเนื่องว่าจะส่ง Etios ที่เป็นเวอร์ชั่นแฮทช์แบ็คมาขอส่วนแบ่งด้วยเช่นกัน แต่ที่ช้าก็อาจจะเพราะว่ายังลังเลอยู่ว่า การผลิตรถอีโคคาร์ที่ต้องมาตัดราคากันนั้น อยู่นอกกลยุทธ์หลักของบริษัทฯ จนผู้บริการระดับสูงได้ออกมาแถลงข่าวและออกตัวว่า Toyota จะไม่เล่นสงครามราคาแน่นอน แต่จะเน้นคุณภาพและบริการหลังการขาย ซึ่งจะช่วยทำให้บริษัทฯรักษาภาพลักษณ์ของรถคุณภาพเอาไว้ได้ด้วย ไม่ว่าจะแข่งขันกันดุเดือดอย่างไร งานนี้ผู้ที่คิดจะซื้ออีโคคาร์มาใช้มีแต่ได้กับได้ไปเต็มๆ!
Honda BRIO อีโคคาร์ตัวใหม่ เริ่มขายมีนาคมปี 2011 ราคาเฉียด 4 แสนบาท
Honda BRIO อีโคคาร์ตัวใหม่ เริ่มขายมีนาคมปี 2011 ราคาเฉียด 4 แสนบาท
ที่มา autospinn

Honda Eco Car ต้นแบบล่าสุด เตรียมโผล่ที่งาน Thailand International Motor Expo 2010

Honda Eco Car ต้นแบบล่าสุด เตรียมโผล่ที่งาน Thailand International Motor Expo 2010 กรุงเทพฯ (9 พฤศจิกายน 2553) – วันนี้ฮอนด้าได้ประกาศแผนจัดแสดงต้นแบบนวัตกรรมยานยนต์ ขนาดเล็ก New Small Vehicle Prototype ซึ่งสะท้อนทิศทางอนาคตของรถยนต์ขนาดเล็กรุ่นใหม่ ที่มีกำหนดแนะนำสู่ตลาดประเทศไทยและอินเดีย ในปี 2554 ในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 27 หรือ the 27th Thailand International Motor Expo 2010 ซึ่งจะเริ่มขึ้นในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2553 (เปิดสำหรับสื่อมวลชนวันที่ 30 พ.ย. และสำหรับประชาชนทั่วไปวันที่ 1-12 ธ.ค.)ทั้งนี้ ต้นแบบนวัตกรรมยานยนต์ขนาดเล็กนี้ได้รับการพัฒนามาจาก Honda New Small Concept ที่ได้จัดแสดงไปแล้วเมื่อต้นปี 2553 เดือนมกราคมในประเทศอินเดีย และเดือนมีนาคมในประเทศไทย โดยจะเป็นต้นแบบของรถที่มีรูปลักษณ์ใกล้เคียงกับรถรุ่นที่จะผลิตออกสู่ตลาดมากที่สุด จากรถยนต์ต้นแบบ ฮอนด้าจะแนะนำรถขนาดเล็กสองรุ่นที่ใช้พื้นฐานการออกแบบร่วมกันสำหรับประเทศไทย ฮอนด้าจะแนะนำรถรุ่นที่ให้ประสิทธิภาพด้านการประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมซึ่งสอดคล้องกับมาตรฐานของไทย ส่วนในอินเดียฮอนด้าจะแนะนำรถรุ่นที่พัฒนาขึ้นโดยเฉพาะ เพื่อรองรับตลาดรถยนต์ขนาดเล็กที่กำลังขยายตัวของอินเดีย
ที่มา: Honda,autospinn

Honda BRIO Prototype รถ Eco Car ต้นแบบ เผยโฉมก่อนรุกตลาดเต็มตัวปี 2554

Honda BRIO Prototype รถ Eco Car ต้นแบบ เผยโฉมก่อนรุกตลาดเต็มตัวปี 2554 เผยโฉมอีกครั้งในชื่อ Brio สำหรับ Honda Eco Car ที่หลายคนเฝ้ารอ ในงาน Motor Expo 2010 ทาง Honda มีความคืบหน้าในเรื่องของชื่อรุ่นและดีไซน์ที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้นก่อนที่จะเริ่มทำตลาดเต็มรูปแบบในปี 2554 ซึ่งก็คือปีหน้า ต้องจับตาดูว่า Honda จะสามารถบุกตลาดได้เร็วก่อนกลางปีหรือไม่ ขอแอบบอกก่อนเลยว่าราคาที่ Honda เปิดเผยในต่างประเทศคือประมาณ 4 แสนบาท แต่ Honda ประเทศไทยยังเงียบๆอยู่ครับ สำหรับภาพเพิ่มเติมกรุณาติดตามได้ที่นี่ ตอนนี้ชมภาพอย่างเป็นทางการและข่าวจาก Honda ไปก่อนครับ
กรุงเทพฯ 30 พฤศจิกายน 2553 — ฮอนด้าแนะนำรถต้นแบบฮอนด้า บริโอ้ สู่สายตาชาวโลกเป็นครั้งแรก พร้อมประกาศจะส่งนวัตกรรมยานยนต์ขนาดเล็กที่พัฒนาขึ้นสำหรับตลาดเอเชียเข้าทำตลาดในประเทศไทยและอินเดียในปี 2554 นี้ ณ งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 27 ซึ่งจะเปิดให้เข้าชม ตั้งแต่วันที่ 30 พฤศจิกายน เป็นต้นไป (เฉพาะสื่อมวลชน: 30 พฤศจิกายน บุคคคลทั่วไป: 1-12 ธันวาคม)
รถต้นแบบ ฮอนด้า บริโอ้ มาพร้อมเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำนำสมัยของฮอนด้า และนับเป็นการพัฒนาแนวคิด “man maximum, machine minimum” 1 ของฮอนด้าให้สูงขึ้นอีกระดับหนึ่ง ฮอนด้ามุ่งพัฒนายนตรกรรมรุ่นนี้ ให้ใช้งานง่าย สะดวกและคล่องตัวแม้ในสภาพการจราจรที่แออัดในเมือง รถต้นแบบ ฮอนด้า บริโอ้ มีขนาดกะทัดรัด ง่ายต่อการขับขี่ (ความยาว 3,610 มม. X ความกว้างกว้าง 1,680 มม. X ความสูง 1,475 มม.) ขณะที่ห้องโดยสารมีพื้นที่ใช้งานอย่างเพียงพอ ด้วยการจัดวางอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งฮอนด้าสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์รุ่นนี้ด้วยความพิถีพิถันอย่างยิ่ง เพื่อให้ได้รูปทรงที่ล้ำสมัย มีขนาดกะทัดรัด และโดดเด่นสะดุดตาในขณะเดียวกัน
สำหรับรถรุ่นที่ผลิตเพื่อจำหน่าย ซึ่งจะเป็นรถรุ่นเริ่มต้นสำหรับผู้ที่มองหารถยนต์เป็นพาหนะ และเป็นตลาดที่กำลังเติบโตมากขึ้นในประเทศที่กำลังขยายตัวทางเศรษฐกิจนั้น ฮอนด้าจะพัฒนารุ่นที่เหมาะกับประเทศไทยและอินเดียโดยเฉพาะ ทั้งนี้เพื่อสะท้อนความต้องการที่แตกต่างกันของลูกค้าในทั้งสองประเทศ นอกจากนี้ ฮอนด้ายังนำเอาความรู้ความสามารถที่สั่งสมจากประสบการณ์ด้านธุรกิจ จักรยานยนต์มาใช้ให้เป็นประโยชน์ พร้อมกับใช้วัสดุและชิ้นส่วนอะไหล่ที่ผลิตภายในประเทศอย่างเช่น แผ่นเหล็กกล้า ให้มากยิ่งขึ้นด้วย
Honda BRIO Prototype รถ Eco Car ต้นแบบ
Honda BRIO Prototype รถ Eco Car ต้นแบบ
Honda BRIO Prototype รถ Eco Car ต้นแบบ

ที่มา: Honda และ autospinn

Honda afiaith“ฮอนด้า บริโอ”เผยโฉมครั้งแรกในโลก-ขายปีหน้าราคา 4 แสน

“ฮอนด้า บริโอ”เผยโฉมครั้งแรกในโลก-ขายปีหน้าราคา 4 แสน มาตามสัญญาสำหรับ “อีโคคาร์” น้องใหม่ ซึ่งฮอนด้านำมาเผยโฉมในงาน “มอเตอร์เอ็กซ์โป 2010” เป็นครั้งแรกในโลก และแม้ฮอนด้าจะบอกว่านี่เป็นแค่ตัว “โปรโตไทป์” แต่เชื่อว่าตัวขายจริงปีหน้า รูปลักษณ์คงไม่ต่างจากนี้มากนัก

“บริโอ” มากับรูปลักษณ์โฉบเฉี่ยว บนตัวถังแฮทซ์แบ็ก 5 ประตู วางเครื่องยนต์เบนซิน 1.2 ลิตร ประหยัดน้ำมันสุดๆเป็นคุณสมบัติเด่นของรกฮอนด้าอีโกคาร์ เหมาะมากสำหรับคนเมือง คาดว่า“ฮอนด้า” เตรียมเปิดตัวขายจริงช่วงไตรมาสแรกปีหน้า หรืองาน “บางกอกมอเตอร์โชว์ 2010” สนนราคา 4-5 แสนบาท
2.ฮอนด้า บริโอ Honda afiaith
3.ฮอนด้า บริโอ Honda afiaith
4.ฮอนด้า บริโอ Honda afiaith
5.ฮอนด้า บริโอ Honda afiaith
6.ฮอนด้า บริโอ Honda afiaith
7.ฮอนด้า บริโอ Honda afiaith
8.ฮอนด้า บริโอ Honda afiaith
ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

Honda เตรียมคืนชีพให้ NSX รถสปอร์ตคูเป้ตัวเก่ง อาจมาพร้อม V6 400 แรงม้า

จากที่มีข่าวว่า Honda ตัดสินใจเลิกพัฒนา NSX ไปแล้ว เพราะเหตุผลทางด้านเศรษฐกิจ หลังจากนั้นก็มีข่าวการที่จะฟื้นคืนชีพของ NSX ในรูปทรงของ HSV-010-GT หรือรถแนวคิดต่างๆที่ทำให้แฟนๆ Honda ลุ้นกันมาตลอด แต่ก็คงไม่ชัดเจนเหมือนกับข่าวล่าสุดจาก motortrend.com ที่รายงานว่า Honda ยังไม่ทิ้ง NSX ซึ่งถ้าข่าวนี้เป็นจริง Honda NSX จะใช้แพลตฟอร์มที่ได้รับการปรับปรุงใหม่จาก Accord ใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง โดยมีขุมพลังเป็นเครื่องยนต์ 4 สูบ 2.4 ลิตร หรือ V6 3.5 ลิตร ซึ่งทราบมาจากการที่ Honda ได้ยื่นขอสิทธิบัตรโดยการระบุเครื่องยนต์ที่ใช้เป็นเครื่อง V6 ขนาด 400 แรงม้า นอกจากนั้นอาจจะมีการนำระบบไฮบริดมาใช้ด้วยเช่นกัน
ที่ผ่านมา Honda ได้ห่างหายไปจากการผลิตรถสปอร์ตแบบเต็มรูปแบบ หลังจากประกาศเลิกผลิต S2000 ไปเมื่อประมาณ 2 ปีที่ผ่านมา ส่วนรถไฮบริดอย่าง CR-Z ก็เป็นเพียงคูเป้ในทรงสปอร์ตเท่านั้น NSX จึงเป็นรถสปอร์ตคูเป้ตัวจริงจากค่ายรถยนต์แดนซามูไรรายนี้ที่ทำให้สาวกมีลุ้นมากขึ้นไปอีก (ภาพประกอบเป็น NSX ปี 2002)

ที่มา: motortrend,autospinn

ฮอนด้าเชนจ์ แอคคอร์ด ส่งท้ายปี 53

ฮอนด้า เปิดเกมรุกท้ายปีจับ แอคคอร์ด มาไมเนอร์เชนจ์ ใหม่ ด้วยการเพิ่มอุปกรณ์อำนวยความสะดวก ระบบนำทางเนวิเกเตอร์เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ราคาเริ่มต้น 1,265,000 บาท จนถึงรุ่นท็อป 2,940,000 บาท

นาย อาซึชิ ฟูจิโมโตะ ประธานบริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า กลุ่มของรถยนต์นั่งขนาดกลางระดับหรู ฮอนด้า แอคคอร์ด ถือเป็นรถที่โดดเด่นและเป็นที่ยอมรับในเรื่องสมรรถนะ ความหรูหรา ความน่าเชื่อถือ ประโยชน์ใช้สอย ภายในกว้างขวางและความสะดวกสบาย จนได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในรถยนต์ที่น่าเชื่อถือที่สุด จากการทดสอบมากมายทั้งในอดีตและปัจจุบัน”
ขณะที่ในเมืองไทยช่วง 10 เดือนแรกของปี 2553 ยอดจำหน่ายรถยนต์ฮอนด้าอยู่ที่ 91,948 คัน โดยแอคคอร์ด เป็นหนึ่งในสามของรถยนต์นั่งขนาดกลางที่ขายดีที่สุด มียอดจำหน่ายตั้งแต่เดือนมกราคม-ตุลาคมปีนี้ รวม 4,842 คัน เพิ่มขึ้น 15% จากระยะเวลาเดียวกันของปีก่อน

ด้วยความเป็นรถที่ได้รับความนิยมรุ่นหนึ่ง ล่าสุดบริษัทได้ทำการไมเนอร์เชนจ์รถรุ่นนี้ใหม่ เรียกว่าเป็นเวอร์ชั่น 2011 โดยการปรับเปลี่ยนหลักๆ จะเป็นเปลือกกันชนหน้า กระจังหน้า และไฟตัดหมอกใหม่ ส่งให้รูปลักษณ์มีความสปอร์ตโฉบเฉี่ยวขึ้น ด้านท้ายแผงไฟใหม่และล้อมกรอบโครเมี่ยม พร้อมมากับล้ออัลลอย 17 นิ้ว ส่วนเครื่องยนต์ไม่มีการเปลี่ยนแปลง โดยมีทางเลือก 3 บล็อก เป็นเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร 2.4 ลิตร และ 3.5 ลิตร V6

สำหรับรายละเอียดของรถแต่ละรุ่น ฮอนด้า แอคคอร์ด รุ่น 3.5 V6 ราคา 2,940,000 บาท มาพร้อมกับซันรูฟ ระบบ One-Touch ระบบนำทางเนวิเกเตอร์ที่ใช้งานง่าย เครื่องเล่นดีวีดี พร้อมกล้องส่องภาพด้านหลังซึ่งช่วยให้การถอยหลังและจอดง่ายขึ้น และฮาร์ดดิสก์สำหรับบันทึกไฟล์เพลง (HDD Audio) กระจกมองหลังปรับลดแสงแบบอัตโนมัติ ระบบไฟหน้าแบบ HID พร้อมระบบปรับไฟหน้าสูง-ต่ำแบบอัตโนมัติ ล้ออัลลอย 17 นิ้ว ระบบปัดน้ำฝนแบบอัตโนมัติ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ม่านบังแดดกระจกหลังปรับไฟฟ้า เบาะนั่งด้านคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทางพร้อมระบบบันทึกตำแหน่งเบาะ ระบบเชื่อมต่อแฮนด์ฟรีแบบไร้สาย Bluetooth ระบบเครื่องเสียงแบบ Premium sound system สวิตช์ควบคุมระบบเครื่องเสียงติดตั้งที่พนักเท้าแขนของเบาะหลัง ถุงลมคู่หน้าอัจฉริยะ ถุงลมคู่หน้าด้านข้างอัจฉริยะพร้อมระบบเซ็นเซอร์แบบ OPDS ม่านถุงลมด้านข้าง ระบบแปรผันการทำงานของกระบอกสูบอัตโนมัติ VCM (Variable Cylinder Management) พร้อมระบบ Active Control Engine Mount (ACM) เทคโนโลยีควบคุมเสียงรบกวน ANC (Active Noise Control) และระบบควบคุมการทรงตัว VSA พร้อมระบบเสริมแรงเบรก BA และกุญแจรีโมทแบบพับเก็บได้ พร้อมสัญญาณกันขโมย
แอคคอร์ด รุ่น 2.4 EL ราคา 1,547,000 บาท และรุ่น 2.4 EL NAVI ราคา 1,687,000 บาท มาพร้อมกับระบบไฟหน้าแบบ HID ระบบปรับไฟหน้าสูง-ต่ำแบบอัตโนมัติ ล้ออัลลอย 17 นิ้ว ระบบปัดน้ำฝนแบบอัตโนมัติ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ระบบเชื่อมต่อแฮนด์ฟรีแบบไร้สาย Bluetooth ระบบเครื่องเสียงแบบ Premium sound system สวิตช์ควบคุมระบบเครื่องเสียงบนพวงมาลัย ถุงลมคู่หน้าอัจฉริยะ ถุงลมคู่หน้าด้านข้างอัจฉริยะพร้อมระบบเซ็นเซอร์แบบ OPDS ม่านถุงลมด้านข้าง ระบบควบคุมการทรงตัว VSA พร้อมระบบเสริมแรงเบรก BA กุญแจรีโมทแบบพับเก็บได้ พร้อมสัญญาณกันขโมย กระจกมองหลังปรับลดแสงแบบอัตโนมัติและเบาะนั่งด้านคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทางพร้อมระบบบันทึกตำแหน่งเบาะ ทั้งนี้ในรุ่น 2.4 EL NAVI เป็นระบบนำทางเนวิเกเตอร์ ที่มาพร้อมกับเครื่องเล่น DVD และกล้องส่องภาพด้านหลังซึ่งช่วยให้การถอยหลังและจอดง่ายขึ้น และฮาร์ดดิสก์สำหรับบันทึกไฟล์เพลง (HDD Audio) ส่วนรุ่น 2.4 EL เป็นเครื่องเล่นCD/MP3แบบ 6 แผ่น

รุ่น 2.0 E ราคา 1,265,000 บาท มาพร้อมกับ ล้ออัลลอย 16 นิ้ว เบาะนั่งด้านคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ เครื่องเล่นCD/MP3 แบบ 6 แผ่น สวิตช์ควบคุมระบบเครื่องเสียงบนพวงมาลัย ถุงลมคู่หน้าอัจฉริยะ ถุงลมคู่หน้าด้านข้างอัจฉริยะพร้อมระบบเซ็นเซอร์แบบ OPDS กุญแจรีโมทแบบพับเก็บได้ พร้อมสัญญาณกันขโมยฮอนด้า แอคคอร์ด เวอร์ชั่น 2011 ยังได้เพิ่ม 2 รุ่นย่อยทางเลือกใหม่ คือ รุ่น 2.0 EL ราคา 1,280,000 บาท และรุ่น 2.0 EL NAVI 1,420,000 บาท มาพร้อมกับ ล้ออัลลอย 17 นิ้ว เบาะนั่งด้านคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ถุงลมคู่หน้าอัจฉริยะ ถุงลมคู่หน้าด้านข้างอัจฉริยะพร้อมระบบเซ็นเซอร์แบบ OPDS สวิตช์ควบคุมระบบเครื่องเสียงบนพวงมาลัย กุญแจรีโมทแบบพับเก็บได้ พร้อมสัญญาณกันขโมย ทั้งนี้ในรุ่น 2.0 EL เป็นเครื่องเล่นCD/MP3แบบ 6 แผ่น ส่วนรุ่น 2.0 EL NAVI เป็นระบบนำทางเนวิเกเตอร์ ที่มาพร้อมกับเครื่องเล่น DVD และกล้องส่องภาพด้านหลังและฮาร์ดดิสก์สำหรับบันทึกไฟล์เพลง (HDD Audio) และระบบเครื่องเสียงแบบ Premium sound system

ฮอนด้า แอคคอร์ด ไมเนอร์เชนจ์ มีให้เลือก 5 สี คือ ขาวบริลเลียนท์ เงินอลาบาสเตอร์ เทาโพลิชเมทัล ดำคริสตัล และ น้ำตาลเออร์เบิน ไทเทเนียม (สำหรับสีพิเศษสีขาว เพิ่มอีก 10,000 บาท)

ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์