Honda ถล่มตลาดเก๋ง! เปิดรถใหม่ลุยตลอดปี

ค่าย “ฮอนด้า” จัดชุดใหญ่ถล่มตลาดเก๋งไทย! เปิดตัวรถใหม่แทบจะทุกไตรมาส ประเดิมเรียกน้ำย่อยกับการไมเนอร์เชนจ์ “ฮอนด้า แจ๊ซ” กำหนดขาย 27 มกราคมที่จะถึงนี้ ด้วยการปรับแต่งที่แตกต่างจากเดิมชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นกันชน กระจัง ไฟหน้าและท้าย พร้อมติดตั้งแอร์แบ็กทุกรุ่น ปรับราคาสูงสุดประมาณกว่า 2 หมื่นบาท จากนั้นเดือนมีนาคมจะเป็นทีเด็ดของปีนี้ “ฮอนด้า บริโอ” อีโคคาร์ที่จะมาดับความแรงของ “นิสสัน มาร์ช” กับเครื่องยนต์ 1.2 ลิตร ราคาเริ่มต้นประมาณ 4 แสนบาท และเข้าสู่ครึ่งปีหลังเตรียมเขย่าบัลลังก์เจ้าตลาดซับคอมแพ็กต์แบบ 4 ประตู “ โตโยต้า วีออส” สะเทือน! เมื่อฮอนด้า ออโตโมบิล ประเทศไทย แจ้งดีลเลอร์จะเปิดตัว “ฮอนด้า ซิตี้ ซีเอ็นจี” เครื่องยนต์รองรับก๊าซธรรมชาติบุกตลาด พร้อมกับเปิดแผนส่งไฮไลต์อีกตัว “ฮอนด้า ซีวิค” โฉมใหม่ช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคมนี้ ช่วงเวลาไล่เลี่ยกับตลาดต่างประเทศทันที
นับเป็นช่วงนาทีทองของค่าย “ฮอนด้า” เพราะกระแสเก๋งกำลังมาแรง โดยเฉพาะเก๋งขนาดเล็กที่ตลาดคึกคักสุดๆ เนื่องจากรถรุ่นใหม่ๆ เปิดตัวสู่ตลาดต่อเนื่อง แต่ฮอนด้ายังสามารถกวาดยอดขายได้เป็นกอบเป็นกำ ปิดตลาดเมื่อปี 2553 ที่ผ่านมาทำได้มากถึงกว่า 1.14 แสนคัน หรือเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 22%

สำหรับรายละเอียดของยอดขายรถฮอนด้าที่ผ่านมา แบ่งเป็นฮอนด้า ซิตี้ ทำยอดขายได้สูงสุด 48.853 คัน คิดเป็น 27.1% และแจ๊ซ 17,710 คัน คิดเป็น 9.8% ในกลุ่มรถยนต์นั่งประเภทซับคอมแพคท์ ส่วนฮอนด้า ซีวิค 28,978 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งการตลาด 31.1% ของกลุ่มเก๋งคอมแพ็กต์ ขณะที่ฮอนด้า แอคคอร์ด 6,041 คัน คิดเป็น 19.8% ในกลุ่มรถยนต์นั่งประเภทครอบครัว และฮอนด้า ฟรีด มียอดขาย 2,934 คัน คิดเป็นส่วนแบ่ง 21.0% ของกลุ่มรถอเนกประสงค์เอ็มพีวี(MPV) และฮอนด้า ซีอาร์-วี จำนวน 9,540 คัน คิดเป็น 16.9% ในกลุ่มรถประเภทอเนกประสงค์แบบเอสยูวี/พีพีวี(SUV/PPV)

ในส่วนของปี 2554 ที่ตลาดรถยนต์ไทยยังคงมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง โดยกระแสความนิยมยังคงมาแรงเช่นเดิม ทำให้ฮอนด้ามองตัวเลขการขายเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาเช่นกัน ซึ่งจากรายงานข่าวฮอนด้าตั้งเป้าหมายการขายตลอดปีนี้ไว้ที่ประมาณ 1.4 แสนคัน เพราะมีรถยนต์โมเดลใหม่ที่จะเข้ามาทำตลาด นั่นคือ “ฮอนด้า บริโอ” อีโคคาร์ที่เพิ่งเผยโฉมรุ่นต้นแบบ(Prototype) ไปในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2010 เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา และมีกำหนดจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้

แต่ก่อนที่จะไปสัมผัสกับอีโคคาร์รุ่นบริโอ ค่ายฮอนด้าขอเรียกน้ำย่อยลูกค้าชาวไทย ด้วยการส่ง “ฮอนด้า แจ๊ซ” ใหม่ มาเป็นออร์เดิร์ฟเสียก่อน โดยมีกำหนดเปิดตัวในวันที่ 27 มกราคมนี้ ซึ่งฮอนด้า แจ๊ซ ใหม่ เป็นการไมเนอร์เชนจ์ที่เห็นความแตกต่างจากรุ่นปัจจุบันชัดเจนพอสมควร
โดยการปรับโฉมใหม่ของฮอนด้า แจ๊ซครั้งนี้ รูปลักษณ์ภายนอกเหมือนกับเวอร์ชั่นในชื่อ ฮอนด้า ฟิต ที่เพิ่งไมเนอร์เชนจ์ในญี่ปุ่นไปเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา โดยจุดหลักๆ ที่เห็นได้ด้วยตา อาทิ กระจังหน้า เปลือกกันชน ไฟหน้า และไฟท้าย พร้อมกับเพิ่มสีส้มใหม่เข้ามา และมีการปรับบางรุ่นออก นอกจากนี้ยังได้มีการใส่ถุงลมนิรภัย หรือแอร์แบ็กเข้ามาทุกรุ่น โดยจะมีการปรับราคาเพิ่มสูงสุดประมาณ 2 หมื่นบาท

ฮอนด้า แจ๊ซ ใหม่ จึงเป็นการชิงเปิดเกมรุกตลาดเก๋งขนาดเล็กตัวบนก่อน ในขณะที่คู่แข่งยังไม่มีการขยับอะไร ก่อนที่จะถล่มซ้ำกับเก๋งเล็กระดับราคา 4 แสนบาท และถือเป็นไฮไลต์ของฮอนด้าในปีนี้ นั่นก็คืออีโคคาร์ “ฮอนด้า บริโอ” ที่ได้ยลโฉมตัวโปรโตไทป์ไปแล้ว ซึ่งเวอร์ชั่นขายจริงช่วงปลายเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้ รูปลักษณ์จึงไม่น่าจะหนีไปจากนี้มากนัก ขณะที่รายละเอียดข้อมูลยังไม่เปิดเผยออกมา คร่าวๆ จะวางเครื่องยนต์ขนาด 1200 ซีซี มีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ และอัตโนมัติ 4 จังหวะ

การเปิดตัวฮอนด้า บริโอ นี้จะเป็นบททดสอบอีโคคาร์รุ่นแรกในไทย “นิสสัน มาร์ช” ว่าจะยังคงร้อนแรงต่อไปอีกหรือไม่?... และยังจะชี้แนวโน้มความต้องการของตลาดอีโคคาร์ในไทยด้วย เพื่อยืนยันคนไทยได้เปิดกว้างรับเก๋งขนาดเล็กเครื่องยนต์ต่ำกว่า 1300 ซีซี อย่างแท้จริงแล้วหรือไม่?
อย่างไรก็ตาม ฮอนด้าไม่ได้หยุดบุกตลาดเก๋งอยู่เพียงแค่นี้ เพราะเข้าสู่ช่วงครึ่งปีหลัง จะเป็นคราวของซับคอมแพ็กต์ซีดานตัวเก่ง “ฮอนด้า ซิตี้” ใหม่ ซึ่งจะเป็นแต่งองค์ทรงเครื่องให้สดใส พร้อมที่จะมากวาดยอดขายอีกแรง จากรายงานการประชุมของตัวแทนจำหน่าย หรือดีลเลอร์ล่าสุด ได้มีการแจ้งว่า ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ จะสร้างความฮือฮาให้กับตลาด เพราะจะเปิดการรุกพลังงานทางเลือกใหม่ กับเวอร์ชั่นเครื่องยนต์รองรับก๊าซธรรมชาติ “ซีเอ็นจี”(CNG) หรือเอ็นจีวี(NGV) ด้วย
ทั้งนี้หากฮอนด้าเปิดตัวรถซิตี้รุ่นซีเอ็นจีออกมา ย่อมต้องสอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภค ในสภาวะราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเช่นนี้ นับเป็นกลยุทธ์ที่น่ากลัวทีเดียว และหาก “โตโยต้า วีออส” ไม่ยอมปรับตัว มีสิทธิ์ตำแหน่งเจ้าตลาดเก๋งซับคอมแพ็กต์แบบ 4 ประตู มีหวังโดนฮอนด้า ซิตี้ โค่นแน่ๆ

จากความเคลื่อนไหวดังกล่าว ต้องบอกว่าในปี 2554 ฮอนด้าเขาจัดชุดใหญ่มาจริงๆ เพราะแม้จะเปิดตัวรถใหม่ 3 โมเดล แทบจะเรียงทุกไตรมาสแล้ว ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ยังมีไฮไลต์อีกตัว “ฮอนด้า ซีวิค” โฉมใหม่ มาถล่มเก๋งคอมแพ็กต์ ซึ่งเป็นอีกตลาดเก๋งสำคัญของไทย โดยซีวิคใหม่ยังจะทำตลาดกับ 2 ทางเลือก คือ เครื่องยนต์ 1.8 และ 2.0 ลิตรเช่นเดิม

ฮอนด้า ซีวิค ใหม่ ถือเป็นปรับโฉมใหม่ทั้งคัน หรือโมเดลเชนจ์ นับเป็นเจนเนอเรชั่นที่ 9 ของรถตระกูลซีวิค โดยเพิ่งเผยโฉมเวอร์ชั่นในตลาดสหรัฐอเมริกา ไปในงานดีทรอยต์ มอเตอร์โชว์ 2011 เมื่อกลางเดือนมกราคมที่ผ่านมา และมีกำหนดจะเปิดขายในช่วงไตรมาสสามของปีนี้
ตามประเพณีเดิมๆ ฮอนด้า ซีวิค ที่ขายในไทย คงยังไม่สามารถยึดเอารูปลักษณ์ของเวอร์ชั่นสหรัฐอเมริกา เพราะไทยจะยึดตามเวอร์ชั่นเดียวกับในญี่ปุ่น(ฮอนด้าแยกทำตลาดซีวิคเป็น 3 เวอร์ชั่น คือ โฉมสหรัฐอเมริกา โฉมยุโรป และโฉมญี่ปุ่น) ดังนั้นหากยึดตามบรรทัดฐานดังกล่าว เจนเนอเรชั่นที่ 9 ที่จะขายในไทยย่อมต้องเป็นไปในทิศทางเดียวกัน

แต่อย่าเพิ่งมองข้ามเวอร์ชั่นสหรัฐอเมริกาที่เผยโฉมไป เพราะมีกระแสข่าวว่า ฮอนด้า ซีวิค จะไม่มีเวอร์ชั่นญี่ปุ่นอีกต่อไป และหนักสุดถึงกับมีข่าวร่ำข่าวลือว่า... อาจจะไม่ทำตลาดในญี่ปุ่นเลย?!
นอกจากนี้ยังเป็นที่น่าสังเกต คอนเซ็ปต์ของการพัฒนา ฮอนด้า ซีวิค ใหม่ ที่ว่า... Civic For All People มันชวนให้ตีความเป็น 2 แบบ นั่นคือการเป็นรถสำหรับทุกๆ คน ไม่ว่าจะเป็นวัยรุ่น หนุ่มสาว วัยกลางคนไปจนถึงแก่ชราหนังเหี่ยว หรือจะคิดลึกอีกหน่อยแปลคำว่า All People เป็น “คนทั่วโลก” จะได้สัมผัสซีวิคเหมือนๆ กัน

หากคิดแบบนั้นก็ต้องหมายความว่า... ฮอนด้า ซีวิค โฉมใหม่ จะมีเวอร์ชั่นเดียวทำตลาดทั่วโลก?!
แน่นอนสิ่งเหล่านี้เป็นเพียงแค่การวิเคราะห์เท่านั้น คงต้องรอเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ซึ่งมีรายงานจากที่ประชุมดีลเลอร์ล่าสุด “ฮอนด้า ออโตโมบิล ประเทศไทย” ได้แจ้งว่าจะเปิดตัว ฮอนด้า ซิวิค ใหม่ช่วงเดือนกันยายน หรือตุลาคมนี้ ซึ่งหากเป็นเช่นนั่นก็น่าจะไล่เลี่ยกับตลาดต่างประเทศ จากเดิมที่คาดว่าจะเปิดตัวในไทยช่วงเดือนพฤศจิกายน หรืองานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2011 โดยยังจะทำตลาดกับ 2 ทางเลือก คือ เครื่องยนต์ 1.8 และ 2.0 ลิตรเช่นเดิม

ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม สิ่งหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ ฮอนด้าเขาจัดชุดใหญ่มาถล่มตลาดเก๋งไทย ปีกระต่ายตื่นตูม 2544 แบบเต็มอัตราศึกกันเลยทีเดียว!!
ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

1 ความคิดเห็น: